การออกแบบ portfolio

Portfolio คืออะไร ?

Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน) คือ แฟ้มไว้รวบรวมผลงานที่น้อง ๆ เคยทำมาไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรม การเข้าร่วมแข่งขัน หรือเกียรติบัตรนั่นเอง 

ความสำคัญของการทำ Portfolio 

การทำ Portfolio เป็นการแนะนำตัวเองให้คณะกรรมการและอาจารย์ที่เป็นคนคัดเลือกตอนสอบสัมภาษณ์ได้รู้จักตัวตนของน้อง ๆ มากขึ้นว่าเป็นใคร มีผลงานอะไร ซึ่งสำคัญมากในรอบ 1 เพราะเป็นรอบของพอร์ตฟอลิโอโดยเฉพาะเลย 

(ใครที่จะสมัครรอบอื่น ไม่ว่าจะเป็น รอบ 2รอบ 3 หรือรอบ 4 ก็ควรทำพอร์ตไว้ด้วยน้า กรรมการจะได้เห็นภาพมากขึ้นเวลาคุยกับน้อง ๆ ไงง) 

คำแนะนำสำหรับการทำ Portfolio

สีที่ใช้ใน Portfolio

  1. ให้ใช้สีที่อ่านง่ายในการเขียนข้อมูล เช่น สีดำหรือสีเข้ม
  2. ไม่ควรใช้สีสำหรับตกแต่งเกิน 2-3 สี เพราะทำให้ข้อมูลดูอ่านยาก และแนะนำว่าควรบาลานซ์การใช้สี
  3. ให้เหมาะสมด้วย
  4. แนะนำให้ใช้สีตรงกับมหาลัยฯ ที่ยื่นสมัคร เช่น จุฬาฯ ใช้สีชมพูกับสีขาว, มธ. ใช้สีเหลืองกับสีแดง, มก. ใช้สีเขียว, มหิดล ใช้สีน้ำเงิน, มศว ใช้สีเทากับสีแดง เป็นต้น

Code สีที่แนะนำสำหรับทำ Portfolio

จุฬาฯ

#DE5C8E, #F8E1EA, #58595B, #AB5814, #E9C869 

มธ.

#FFD13F, #C3002F

มก.

#006664, #B2BB1E, #74787B, #6E4B32, #FFD800

มหิดล

#1D4F91, #FFC845, #AD841F

มศว

#DA2128, #636466, #231F20

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราไปดูสีของ Code ด้านบนเลยดีกว่าว่าจะเป็นสีประมาณไหน และพี่มีรวม Code สีของมหาลัยฯ อื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ตามด้านล่างนี้เลยน้าา

วิธีทำ Portfolio 

ส่วนที่ 1 : หน้าปก (Cover)

หน้าปก Portfolio เป็นส่วนสำคัญมาก เพราะกรรมการจะตัดสินว่า เขาจะเปิดดูพอร์ตโฟลิโอของเราหรือไม่ ไม่ว่าเนื้อหาภายในของพอร์ตโฟลิโอจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหน้าปกไม่น่าสนใจ ก็อาจจะไม่ดึงดูดใจให้เปิดดูน้า 

ดังนั้นน้อง ๆ สามารถออกแบบโดยการใส่ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นตัวของตัวเองลงไป ได้อย่างเต็มที่เลย 

แต่เนื้อหาที่ควรจะมีก็ต้องใส่ให้ครบถ้วนด้วยยย 

หน้าปก Portfolio

– ควรออกแบบพอร์ตโฟลิโอให้มีความโดดเด่น น่าสนใจ ตรงกับธีมของคณะและสาขาที่น้อง ๆ ได้เลือกมาเพื่อดึงดูดใจ

คณะกรรมการ

– รูปที่เลือกใช้ควรเป็นรูปที่สวมใส่ชุดนักเรียน และเห็นใบหน้าที่ชัดเจน 

– ใส่รายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะสมัครมหาลัยฯ ไหน คณะ และสาขาอะไร 

– ควรมีประวัติส่วนตัวของตัวเองเล็กน้อย เพื่อยืนยันตัวตน

  1. ชื่อจริง – นามสกุล
  2. ชื่อเล่น (มีหรือไม่มีก็ได้)
  3. ชื่อโรงเรียน
  4. ชื่อมหาลัยฯ / คณะ / สาขา ที่ยื่น 

ส่วนที่ 2 : คำนำ (Preface)

คำนำ Portfolio ถือเป็นส่วนที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นเลย เพราะเวลาเขียนคำนำจะต้องบอกถึงเหตุผลที่อยากเข้าศึกษา เพราะอะไร สิ่งไหนที่เป็นแรงบันดาลใจ 

โดยมีจุดที่สำคัญ คือ น้อง ๆ จะต้องเขียนคำนำพอร์ตออกมาให้กรรมการอ่านแล้วรู้ว่า เราทำการบ้านมานะ เช่น 

คณะและสาขานี้เรียนเกี่ยวกับอะไร น่าสนใจตรงไหน และเหมาะกับเรายังไง ซึ่งก็จะต้องใช้คำพูดในเชิงบวกด้วยนะ !! 

ถ้าใครเขียนคำนำ Portfolio ได้ดี ก็จะช่วยสร้างความประทับใจจนกรรมการอยากจะดูส่วนอื่น ๆ ต่อไปเลย 

คำนำใน Portfolio

ข้อควรระวังสำหรับการเขียน คำนำ Portfolio

  1. ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ A4
  2. บอกเล่าออกมาให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความพยายาม รวมถึงทัศนคติที่ดีต่อคณะและสาขาที่ยื่น 
  3. เขียนคำนำ พอร์ตออกมาเป็นรูปแบบเรียงความแบบย่อ ไม่ต้องยาวจนเกินไป ประโยคไหนอยากให้กรรมการสนใจเป็นพิเศษ สามารถเน้นได้เลย

ส่วนที่ 3 : ประวัติส่วนตัว (Personal Information)

การเขียนประวัติส่วนตัวใน Portfolio เป็นส่วนที่น้อง ๆ จะได้แนะนำตัวเองให้กรรมการรู้จัก ดังนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองที่จะใส่ลงไปในพอร์ตฟอลิโอ ควรตรวจเช็กให้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด

ประวัติส่วนตัวใน Portfolio

  1. รูปที่เลือกใช้ควรเป็นรูปนักเรียน หรือรูปภาพที่เห็นหน้าตาชัดเจน
  2. ใส่ข้อมูลส่วนตัวพื้นฐาน ให้ครบถ้วน
  3. เพิ่มเติมในส่วนของงานอดิเรกเข้าไป เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น
  4. ควรใส่ข้อมูลความสามารถพิเศษ ซึ่งถ้าเกี่ยวข้องคณะและสาขาที่ยื่น จะยิ่งส่งเสริมกันขึ้นไปอีก
  5. ข้อมูลครอบครัว ควรที่จะใส่เพื่อสำรองข้อมูล ในกรณีที่เกิดปัญหาแล้วติดต่อน้อง ๆ ไม่ได้
  6. ช่องทางการติดต่อ / ข้อมูลติดต่อ จะต้องเป็นข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด

ส่วนที่ 4 : ประวัติการศึกษา (Education)

ส่วนนี้ในพอร์ตโฟลิโอจะเป็นส่วนที่แสดงถึงผลการเรียนที่ผ่านมาของน้อง ๆ ว่า มีการพัฒนาขึ้นหรือลดลงยังไง และ

เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ด้วยว่า ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกหรือไม่ รวมถึงประวัติการเข้าศึกษาในโรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย

ประวัติส่วนตัวใน Portfolio

  1. ชื่อโรงเรียนที่จบมา ในแต่ละระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย
  2. เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ในแต่ละชั้นปี

ส่วนที่ 5 : กิจกรรมที่โดดเด่น (Activity)

ส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งในแฟ้มสะสมผลงานส่วนนี้ จะเป็นส่วนที่น้อง ๆ จะได้บอกเล่าถึงความสามารถพิเศษของตัวเองผ่านกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมแข่งขัน หรือค่ายต่าง ๆที่เคยเข้าร่วม ดังนั้น น้อง ๆ จะต้องเลือกกิจกรรมที่

น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับคณะและ สาขาที่จะยื่นลงไปใน Portfolio ด้วยน้าา 

กิจกรรมที่ใส่ใน Portfolio

  1. คัดเลือกกิจกรรมที่โดดเด่น เข้ารอบ หรือได้รับรางวัล (โดยเรียงจากรางวัลใหญ่ไปเล็ก) รวมถึงเกี่ยวข้องกับคณะและสาขา ที่ยื่น ส่วนกิจกรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องควรตัดทิ้ง ไม่ควรใส่กิจกรรมเยอะจนเกินไป 
  2. เลือกใช้รูปภาพที่เห็นตัวเองขณะทำกิจกรรมนั้นอย่างชัดเจน ภาพไม่ควรมีขนาดที่เล็กจนเกินไป (ควรใส่เครื่องหมายในรูปด้วยว่า เราคือคนไหนในรูปภาพนี้) 
  3. อธิบายรายละเอียดของกิจกรรมให้กระชับ เข้าใจง่ายและเห็นภาพ รวมถึงรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันนี้ด้วย 

ส่วนที่ 6 : เกียรติบัตร รางวัล (Certificate)

เป็นส่วนที่จะแสดงผลงาน / รางวัล / เกียรติบัตรของน้อง ๆ ที่รวบรวมตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษ และบ่งบอกว่าเป็นเด็กกิจกรรมอีกด้วย ซึ่งผลงานที่เลือกมานั้นควรมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะและ สาขาที่จะยื่น หรือสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ และทัศนคติที่ดีได้

เกียรติบัตร รางวัลที่ใส่ใน Portfolio

Previous

Next

หมายเหตุ : ยกเว้นในกรณีที่ยื่นเข้าคณะและสาขาที่เน้นโชว์ความสร้างสรรค์ของ Portfolio สูงมาก ๆ เช่น ออกแบบแฟชั่น น้อง ๆ ก็จะต้องใส่ความครีเอทีฟของตัวเองเข้าไปอีกน้า

ข้อมูลที่ใส่ใน Portfolio

  1. เขียนข้อมูลให้กระชับ และไฮไลต์เฉพาะสิ่งสำคัญ หรือผลงานที่เกี่ยวข้องกับคณะที่ยื่น จะทำให้คณะกรรมการโฟกัสได้ง่ายขึ้น และทำให้ Portfolio ของน้อง ๆ โดดเด่น
  2. เช็กเรื่องการสะกดคำให้ถูกต้องบ่อย ๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญเลย

*ห้ามใส่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง หรือข้อมูลที่น้อง ๆ ไม่แน่ใจ เพราะหากทางมหาลัยฯ ตรวจเจอ น้อง ๆ จะถูกตัดสิทธิ์ทันที และอาจมีผลต่อการยื่นสมัครรอบถัด ๆ ไปด้วย

 

ภาพที่ใส่ใน Portfolio

  1. ใส่ภาพประกอบเท่าที่จำเป็น และควรเป็นภาพที่มีน้อง ๆ อยู่ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเคยเข้าร่วม
  2. กิจกรรมจริง ๆ
  3. ไม่ควรแต่งภาพมากเกินไป แนะนำให้ใช้รูปที่เหมือนตัวจริงมากที่สุด

สำหรับคำแนะนำที่พี่ยกมาให้ทุกคนดูวันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเทคนิคการทำ Portfolio เท่านั้น แต่ถ้าใครอยากได้เทคนิคมากกว่านี้ หรืออยากรู้ว่า แต่ละคณะควรเก็บผลงานอะไรบ้าง ควรทำ Portfolio ออกมาในรูปแบบไหนก็สามารถลองอ่านบทความ รวม 8 เทคนิคทำพอร์ตเข้ามหาลัยฯ ดูได้เลยน้าา

4 ข้อควรรู้ก่อนยื่นรอบ Portfolio

  1. สมัครที่เว็บไซต์ของมหาลัยฯ เพราะแต่ละที่อาจมีขั้นตอนและใช้เอกสารที่แตกต่างกันออกไป
  2. บางมหาลัยฯ รับสมัครหลายโครงการ น้อง ๆ ต้องดูรายละเอียดว่ามหาลัยฯ มีเงื่อนอย่างไร อนุญาตให้ยื่นหลายโครงการมั้ย
  3. การประกาศผลมี 2 ขั้นตอน
  4. ผ่านการคัดเลือกจาก Portfolio หรือ เกณฑ์ที่กำหนดเบื้องต้น 
  5. ผ่านการสอบสัมภาษณ์ มีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในคณะ / สาขา นั้น ๆ
  6. การยืนยันสิทธิ์มี 2 ขั้นตอน (ต้องทำทั้ง 2 ขั้นตอน)
  7. ยืนยันที่เว็บมหาลัยฯ ซึ่งน้อง ๆ จะยืนยันกี่ที่ก็ได้
  8. ยืนยันใน myTCAS เป็นการยืนยันสิทธิ์รอบ 1 เลือกได้แค่มหาลัยฯ เดียวเท่านั้น 

Portfolio ควรมีอะไรบ้าง ?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงสร้างPortfolio

วิเคราะห์ตนเอง

หัวข้อที่ 4 การเขียนเนื้อหาของ portfolio