แนวทางการเข้าแพทย์ ด้วยรอบPortfolioให้ติด

 เกณฑ์การเข้ารับในมหาลัยต่างๆ



1. ศึกษาคุณสมบัติของแต่ละมหาวิทยาลัย

  • แต่ละมหาวิทยาลัยมีเกณฑ์ รับต่างกัน เช่น

    • GPAX ขั้นต่ำ (เช่น 3.50 หรือ 3.75 ขึ้นไป)

    • มีผลงานด้านวิชาการ/กิจกรรมที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์

    • ผ่านการอบรมค่าย เช่น ค่าย สอวน., ค่าย สพฐ., หรือค่ายของคณะแพทย์โดยตรง เช่น ค่ายหมอยุวกาชาด, ค่ายเส้นทางสู่หมอ ฯลฯ

    • มีใบรับรองภาษาอังกฤษ (TOEFL/IELTS หรือ CU-TEP/ TU-GET)

    • คะแนนสอบ TGAT / TPAT (แล้วแต่มหาวิทยาลัย)


2. เตรียมแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ให้โดดเด่น

ควรจัด Portfolio ให้น่าสนใจและเป็นมืออาชีพ โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น:

  • หน้าแนะนำตัว / ประวัติส่วนตัว

  • แรงบันดาลใจในการอยากเป็นแพทย์

  • ผลงานเด่นที่เกี่ยวกับการแพทย์ / วิทยาศาสตร์

  • กิจกรรมจิตอาสา / อาสาสมัคร

  • กิจกรรมพิเศษ / แข่งขัน / ประกวด

  • ใบประกาศ / รางวัล

  • ผลคะแนนต่างๆ เช่น TGAT/TPAT, ภาษาอังกฤษ

Tips:

  • เน้น "คุณภาพ" มากกว่า "ปริมาณ"

  • ถ้าเคยทำกิจกรรมที่แสดง "ภาวะผู้นำ" หรือ "จิตสาธารณะ" ให้ชูประเด็นให้ชัดเจน


3. ฝึกซ้อมการสอบสัมภาษณ์

ในรอบ Portfolio จะมี การสัมภาษณ์ เป็นด่านสำคัญมาก

  • ซ้อมตอบคำถามที่พบบ่อย เช่น

    • ทำไมถึงอยากเรียนหมอ?

    • มีคุณสมบัติอะไรที่คิดว่าเหมาะกับอาชีพแพทย์?

    • เคยผิดหวัง/ล้มเหลวไหม? แล้วผ่านมันมาได้อย่างไร?

  • ฝึกตอบอย่างมีสติ คิดเชิงวิเคราะห์ และแสดงทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพแพทย์


4. วางแผนล่วงหน้าและลงมือแต่เนิ่นๆ

  • เตรียม Portfolio และสะสมผลงานตั้งแต่ ม.4-ม.5

  • หาข้อมูลแต่ละมหาวิทยาลัย และเก็บเอกสารให้ครบ

  • ถ้าหาโอกาสเข้าค่าย หรือทำกิจกรรมไม่ได้มาก ลองทำกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ของตัวเอง เช่น ช่วยงานโรงพยาบาล/ศูนย์สาธารณสุข


5. รายชื่อมหาวิทยาลัยที่เปิดรอบ Portfolio (บางส่วน)

  • จุฬาฯ (รอบโควตาพิเศษโรงเรียน)

  • ม.มหิดล (แพทย์รามา, ศิริราชมีรอบโควตาพื้นที่)

  • ม.เชียงใหม่

  • ม.สงขลานครินทร์

  • ม.ขอนแก่น

  • ม.ธรรมศาสตร์

  • ม.นเรศวร

แต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ควรเช็กจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรง


สิ่งที่ต้องเตรียมตัวรอบหนึ่ง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงสร้างPortfolio

วิเคราะห์ตนเอง

หัวข้อที่ 4 การเขียนเนื้อหาของ portfolio