โครงสร้างPortfolio
โครงสร้างPortfolio
Portfolio คืออะไร ?
Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน) คือ แฟ้มไว้รวบรวมผลงานที่น้อง ๆ เคยทำมาไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรม การเข้าร่วมแข่งขัน หรือเกียรติบัตรนั่นเอง
ความสำคัญของการทำ Portfolio
การทำ Portfolio เป็นการแนะนำตัวเองให้คณะกรรมการและอาจารย์ที่เป็นคนคัดเลือกตอนสอบสัมภาษณ์ได้รู้จักตัวตนของน้อง ๆ มากขึ้นว่าเป็นใคร มีผลงานอะไร ซึ่งสำคัญมากในรอบ 1 เพราะเป็นรอบของพอร์ตฟอลิโอโดยเฉพาะเลย
(ใครที่จะสมัครรอบอื่น ไม่ว่าจะเป็น รอบ 2, รอบ 3 หรือรอบ 4 ก็ควรทำพอร์ตไว้ด้วยน้า กรรมการจะได้เห็นภาพมากขึ้นเวลาคุยกับน้อง ๆ ไงง)
คำแนะนำสำหรับการทำ Portfolio
สีที่ใช้ใน Portfolio
- ให้ใช้สีที่อ่านง่ายในการเขียนข้อมูล เช่น สีดำหรือสีเข้ม
- ไม่ควรใช้สีสำหรับตกแต่งเกิน 2-3 สี เพราะทำให้ข้อมูลดูอ่านยาก และแนะนำว่าควรบาลานซ์การใช้สี
- ให้เหมาะสมด้วย
- แนะนำให้ใช้สีตรงกับมหาลัยฯ ที่ยื่นสมัคร เช่น จุฬาฯ ใช้สีชมพูกับสีขาว, มธ. ใช้สีเหลืองกับสีแดง, มก. ใช้สีเขียว, มหิดล ใช้สีน้ำเงิน, มศว ใช้สีเทากับสีแดง เป็นต้น
ข้อมูลโครงสร้าง
Portfolio 10 หน้าที่ควรมี ได้แก่ SOP, ประวัติส่วนตัว, ประวัติการศึกษา, ผลงาน, กิจกรรม, เกียรติบัตร ซึ่ง หน้าปก, ปกหลัง, คำนำ, สารบัญ จะไม่ได้รวมอยู่ใน 10 หน้านี้ด้วย แต่น้อง ๆ สามารถเพิ่มเติมเพื่อให้ Portfolio ของตัวเองน่าสนใจมากขึ้นได้น้า
วิธีทำ Portfolio
ส่วนที่ 1 : หน้าปก (Cover)
หน้าปก Portfolio เป็นส่วนสำคัญมาก เพราะกรรมการจะตัดสินว่า เขาจะเปิดดูพอร์ตโฟลิโอของเราหรือไม่ ไม่ว่าเนื้อหาภายในของพอร์ตโฟลิโอจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหน้าปกไม่น่าสนใจ ก็อาจจะไม่ดึงดูดใจให้เปิดดูน้า
ดังนั้นน้อง ๆ สามารถออกแบบโดยการใส่ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นตัวของตัวเองลงไป ได้อย่างเต็มที่เลย
แต่เนื้อหาที่ควรจะมีก็ต้องใส่ให้ครบถ้วนด้วยยย
– ควรออกแบบพอร์ตโฟลิโอให้มีความโดดเด่น น่าสนใจ ตรงกับธีมของคณะและสาขาที่น้อง ๆ ได้เลือกมาเพื่อดึงดูดใจ
คณะกรรมการ
– รูปที่เลือกใช้ควรเป็นรูปที่สวมใส่ชุดนักเรียน และเห็นใบหน้าที่ชัดเจน
– ใส่รายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะสมัครมหาลัยฯ ไหน คณะ และสาขาอะไร
– ควรมีประวัติส่วนตัวของตัวเองเล็กน้อย เพื่อยืนยันตัวตน
- ชื่อจริง – นามสกุล
- ชื่อเล่น (มีหรือไม่มีก็ได้)
- ชื่อโรงเรียน
- ชื่อมหาลัยฯ / คณะ / สาขา ที่ยื่น
ส่วนที่ 2 : คำนำ (Preface)
คำนำ Portfolio ถือเป็นส่วนที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นเลย เพราะเวลาเขียนคำนำจะต้องบอกถึงเหตุผลที่อยากเข้าศึกษา เพราะอะไร สิ่งไหนที่เป็นแรงบันดาลใจ
โดยมีจุดที่สำคัญ คือ น้อง ๆ จะต้องเขียนคำนำพอร์ตออกมาให้กรรมการอ่านแล้วรู้ว่า เราทำการบ้านมานะ เช่น
คณะและสาขานี้เรียนเกี่ยวกับอะไร น่าสนใจตรงไหน และเหมาะกับเรายังไง ซึ่งก็จะต้องใช้คำพูดในเชิงบวกด้วยนะ !!
ถ้าใครเขียนคำนำ Portfolio ได้ดี ก็จะช่วยสร้างความประทับใจจนกรรมการอยากจะดูส่วนอื่น ๆ ต่อไปเลย
ข้อควรระวังสำหรับการเขียน คำนำ Portfolio
- ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ A4
- บอกเล่าออกมาให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความพยายาม รวมถึงทัศนคติที่ดีต่อคณะและสาขาที่ยื่น
- เขียนคำนำ พอร์ตออกมาเป็นรูปแบบเรียงความแบบย่อ ไม่ต้องยาวจนเกินไป ประโยคไหนอยากให้กรรมการสนใจเป็นพิเศษ สามารถเน้นได้เลย
ส่วนที่ 3 : ประวัติส่วนตัว (Personal Information)
การเขียนประวัติส่วนตัวใน Portfolio เป็นส่วนที่น้อง ๆ จะได้แนะนำตัวเองให้กรรมการรู้จัก ดังนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองที่จะใส่ลงไปในพอร์ตฟอลิโอ ควรตรวจเช็กให้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด
- รูปที่เลือกใช้ควรเป็นรูปนักเรียน หรือรูปภาพที่เห็นหน้าตาชัดเจน
- ใส่ข้อมูลส่วนตัวพื้นฐาน ให้ครบถ้วน
- เพิ่มเติมในส่วนของงานอดิเรกเข้าไป เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น
- ควรใส่ข้อมูลความสามารถพิเศษ ซึ่งถ้าเกี่ยวข้องคณะและสาขาที่ยื่น จะยิ่งส่งเสริมกันขึ้นไปอีก
- ข้อมูลครอบครัว ควรที่จะใส่เพื่อสำรองข้อมูล ในกรณีที่เกิดปัญหาแล้วติดต่อน้อง ๆ ไม่ได้
- ช่องทางการติดต่อ / ข้อมูลติดต่อ จะต้องเป็นข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด
ส่วนที่ 4 : ประวัติการศึกษา (Education)
ส่วนนี้ในพอร์ตโฟลิโอจะเป็นส่วนที่แสดงถึงผลการเรียนที่ผ่านมาของน้อง ๆ ว่า มีการพัฒนาขึ้นหรือลดลงยังไง และ
เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ด้วยว่า ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกหรือไม่ รวมถึงประวัติการเข้าศึกษาในโรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย
- ชื่อโรงเรียนที่จบมา ในแต่ละระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย
- เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ในแต่ละชั้นปี
ส่วนที่ 5 : กิจกรรมที่โดดเด่น (Activity)
ส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งในแฟ้มสะสมผลงานส่วนนี้ จะเป็นส่วนที่น้อง ๆ จะได้บอกเล่าถึงความสามารถพิเศษของตัวเองผ่านกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมแข่งขัน หรือค่ายต่าง ๆที่เคยเข้าร่วม ดังนั้น น้อง ๆ จะต้องเลือกกิจกรรมที่
น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับคณะและ สาขาที่จะยื่นลงไปใน Portfolio ด้วยน้าา
- คัดเลือกกิจกรรมที่โดดเด่น เข้ารอบ หรือได้รับรางวัล (โดยเรียงจากรางวัลใหญ่ไปเล็ก) รวมถึงเกี่ยวข้องกับคณะและสาขา ที่ยื่น ส่วนกิจกรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องควรตัดทิ้ง ไม่ควรใส่กิจกรรมเยอะจนเกินไป
- เลือกใช้รูปภาพที่เห็นตัวเองขณะทำกิจกรรมนั้นอย่างชัดเจน ภาพไม่ควรมีขนาดที่เล็กจนเกินไป (ควรใส่เครื่องหมายในรูปด้วยว่า เราคือคนไหนในรูปภาพนี้)
- อธิบายรายละเอียดของกิจกรรมให้กระชับ เข้าใจง่ายและเห็นภาพ รวมถึงรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขันนี้ด้วย
ส่วนที่ 6 : เกียรติบัตร รางวัล (Certificate)
เป็นส่วนที่จะแสดงผลงาน / รางวัล / เกียรติบัตรของน้อง ๆ ที่รวบรวมตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษ และบ่งบอกว่าเป็นเด็กกิจกรรมอีกด้วย ซึ่งผลงานที่เลือกมานั้นควรมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะและ สาขาที่จะยื่น หรือสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ และทัศนคติที่ดีได้
- ผลงานควรเรียงจากรางวัลใหญ่ ไปรางวัลเล็ก เช่น การแข่งขันระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับภายในโรงเรียน
- ควรสแกนรูปภาพผลงาน แบบสี เพื่อความสวยงาม ชัดเจน ขนาดรูปภาพไม่ควรเล็กจนเกินไป จะทำให้เห็น
- รายละเอียดได้ไม่ชัดเจน
- ต้องเขียนคำบรรยายใต้ภาพด้วยว่า เราเข้าร่วมกิจกรรมหรือการแข่งขันอะไร และได้รับรางวัลอะไรมาบ้างในทุก ๆ ภาพให้กระชับที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น